วีธีเลือกเครื่องตัดสติ๊กเกอร์ เลือกยังไงให้เหมาะกับร้านคุณ How to choose a sticker cutting machine

วีธีเลือกเครื่องตัดสติ๊กเกอร์ เลือกยังไงให้เหมาะกับร้านคุณ How to choose a sticker cutting machine

Sharing is caring!

10 วีธีเลือกเครื่องตัดสติ๊กเกอร์ เลือกยังไงให้เหมาะกับร้านคุณ
1.ควรเลือก แบบที่ มีความเร็วสปีดมากยิ่งขึ้นหากมีงานที่มีความเร่งรีบเร่งด่วน เพื่อให้คุณทำงานได้ทันตามความต้องการของลูกค้า เช่น
-ความเร็ว 600-1000 ขึ้นไป จะช่วยให้คุณเลือกขนาดความเร็วในการตัดได้
2.ควรเลือกเครื่องตัด ที่สามารถไดคัทตัวหนังสือและตัดฉลากได้ด้วย เพราะในบางครั้งลูกค้าอาจสั่งงานทั้ง 2 แบบ เช่น
-งานไดคัทตัวหนังสือธรรมดาทั่วไปก็ตัดได้
-งานตัดตามฉลากสินค้าก็ตัดได้ เพราะมีทางเลือกในเครื่องเดียว
3.ควรเลือกเครื่องตัดที่รองรับใบมีดได้หลายๆขนาด หลายๆแบบ เพื่อเป็นตัวเลือกให้งานของคุณได้มากขึ้น เช่น
-บางรุ่นรองรับใบมีด ของโลแลน บางรุ่นรองรับของมิมากิ แต่หากรองรับได้ทั้งสองขนาดจะดีมาก เพื่อเป็นการง่ายต่อการซื้อไม่ผิดพลาดและสามารถเปลี่ยนใช้งานได้ทันที
4.ควรเลือกเครื่องตัดที่สามารถตัดวัสดุได้หลายๆอย่าง เผื่อมีการใช้งานที่มีวัสดุที่แตกต่างกันออกไป ก็ยังสามารถรองรับการตัดวัสดุนั้นๆได้ เช่น
-ตัดวัสดุที่แข็งหรือหนามากๆ ก็ยังตัดได้
-ตัดวัสดุที่มีความลื่น เครื่องก็ยังตัดได้ไม่เพี้ยน
5.ควรเลือกเครื่องตัด กับ บริษัทที่มีให้เลือกหลายๆรุ่น หลายๆแบบ ให้เหมาะแก่การใช้งาน และมีขนาดพอเหมาะกับการใช้งานของร้านคุณ และสมควรเหมาะแก่พื้นที่ของร้านนั้นๆด้วย เช่น
-หากคุณใช้งานไม่ใหญ่มากหรือไม่กว้างมาก พื้นที่มีจำกัด ก็เลือกเป็นเครื่องเล็กได้
-หากคุณจะเลือกรุ่นที่ตัดได้กว้าง เผื่อในบางงานต้องใช้ขนาดกว้างคุณก็สามารถเลือกขนาดใหญ่ได้
6.ควรเลือกเครื่องตัดที่ผลิตจากวัสดุเกรดดี มีความคงทนแข็งแรง ในการตัด เครื่องนิ่งไม่โคลงเคลง สะดวกต่อการใช้งาน เช่น
-บอดี้ที่ผลิตจากเหล็กที่หนาและแข็งแรง ไม่ใช่เป็นแสตนเลสบางๆทั่วไป

7.ควรเลือกเครื่องตัดที่ สามารถอ่านค่าวัสดุได้หลายๆอย่าง หลายๆแบบ ในการอ่านมาคของแต่ละวัสดุก็ต้องอ่านมาคง่ายและหามาคง่ายเช่นกัน เช่น
-อ่านค่าวัสดุที่มีความเงามากๆได้ หรือวัสดุที่สะท้อนแสงได้ เพราะบางครั้งคุณอาจจะต้องมีการตัดวัสดุเช่นนี้ เครื่องก็จะได้ตอบโจทย์ได้ทันที
8.ควรเลือกเครื่องตัดที่ไม่ยุ่งยาก ใช้งานง่ายติดตั้งโปรแกรมการใช้งานแบบง่ายๆ เพื่อความสะดวกรวดเร็วของร้านคุณ เช่น
-การลงโปรแกรม ต้องไม่ยุ่งยากมาก สามารถทำเองได้
-การสั่งตัด ก็ต้องไม่ยุ่งยาก มีวิธีที่รวบรัดง่ายดายไม่หลายขั้นตอน
9.ควรเลือกเครื่องตัดที่มีการเซอร์วิสการบริการหลังการขาย ของ บริษัทนั้นๆ ให้เลือกที่มีความใส่ใจลูกค้าเป็นอย่างดีและต่อเนื่องตลอดการประกัน เช่น
-การประกัน คุณควรเช็คให้ละเอียด ว่าทางบริษัทนั้น ประกันในด้านใดบ้าง อะไรบ้าง เพื่อที่จะไม่มีความเข้าใจผิดภายหลัง
10.ควรเลือกเครื่องตัดที่ สามารถทำให้งานของเราประหยัดวัสดุมากยิ่งขึ้น เพื่อลดการใช้จ่ายและเซฟตัวคุณได้เป็นอย่างดี เช่น
-การวางมาค ให้วางใกล้ๆงานได้ หรือไม่ต้องเหลือวัสดุทิ้งมากจนเกินไป ทำให้ประหยัดวัสดุ และประหยัดงบประมานของคุณด้วยเช่นกัน
*ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรเลือกซื้อเครื่องตัดกับบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ และดูรีวิวจากพนักงานขายโดยละเอียด และการบริการจากพนักงานที่มีความยินดีและเต็มใจ เพราะหัวใจของสินค้า คือการบริการที่ดีเยี่ยม*

Leave a Reply

Call Now Button
shares